วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Health !!!! 10
ผิวเนียนนุ่มทั่วเรือนกาย...ง่ายนิดเดียว
คุณรู้หรือเปล่าว่าอะไรคืออวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายของคุณ ? ก็ผิวหนังที่ปกคลุมทั่วเรือนร่างของคุณนั่นไง มันมีพื้นที่ราว ๆ 22 ตารางฟุต และต้องการการดูแลไม่น้อยไปกว่าผิวหน้าของคุณ ยิ่งเมื่อคุณอายุมากขึ้น ผิวกายก็มักจะแห้งลงกว่าเดิม ถ้าดูแลแต่ผิวหน้าโดยไม่เหลียวแลผิวกาย คุณก็อาจลงเอยด้วยการมีผิวหน้าเด่นเด้ง แต่ผิวกายเหี่ยวเป็นแม่มด
โชคดีที่ความก้าวหน้าในเรื่องเครื่องสำอางทำให้คุณมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายดี ๆ มากมายหลายอย่าง ที่จะช่วยให้ผิวกายของคุณแข็งแรง และสวยเนียนได้ไม่แพ้ผิวหน้า เรามาเจาะลึกในสิ่งที่คุณควรมองหาจากผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกายให้คุณแล้ว

ทำความสะอาด
การทำความสะอาดผิวด้วยสบู่ก้อนเป็นวิธียอดนิยมที่สุดในการชำระล้างร่างกาย แต่สบู่ก้อนส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของ Sodium Lauryl Sulfate ที่ทำลายน้ำมันธรรมชาติในผิวจนผิวขาดความชุ่มชื้น ในช่วงหลังมานี้หลาย ๆ บริษัทได้สร้างสรรค์สบู่ที่ชุ่มชื่นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์มากขึ้น เพื่อให้ความชุ่มชื้นสู่ผิวในขณะอาบน้ำ รวมทั้งเคลนเซอร์ในรูปเจลหรือครีมอาบน้ำ ที่มักใช้ส่วนผสมที่เป็นสารหล่อลื่น (Emollients) และสารที่ดึงน้ำสู่ผิว (Humectant) อย่างเช่น กรดไฮยาลูรอนิก ที่ช่วยเก็บกักน้ำในผิว หรือสารอย่างเช่น เซราไมด์ ที่เป็นไขมันในผิวชนิดหนึ่ง สามารถช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและบรรเทาอาการแห้งของผิวได้ดี ฉะนั้น เลือกสบู่หรือเคลนเซอร์สำหรับผิวกายที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวด้วยเป็นขั้นแรก
ขัดผิวกาย
ก่อนที่ผิวหนังจะกำเนิดเซลล์ใหม่ขึ้นมาได้ เซลล์ผิวเก่าต้องถูกกำจัดไปเสียก่อน สครับขัดผิวกายจึงเป็นขั้นตอนจำเป็นสำหรับผิวเนียนนุ่มและสุขภาพดี และด้วยตัวเลือกของสครับที่หลากหลายขึ้น ผู้หญิงเราสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบที่ใช้สารขัดผิวแบบเคมี หรือแบมีเม็ดขัด อย่างเช่น เกลือทะเลหรือน้ำตาลทราย ผสมกับน้ำมัน จากพืชที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น คุณควรขัดผิวกายสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แต่ถ้าผิวแห้งอาจแค่สัปดาห์ละครั้งก็พอ
เติมความชุ่มชื่น
ทุกคนต่างต้องการครีมหรือโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวกาย ซึ่งมอยส์เจอไรเซอร์หรือโลชั่นที่ใช้กับผิวหน้าสามารถใช้ได้กับคอหรือผิวบาง ๆ บริเวณหน้าอก แต่ในการดูแลผิวลำตัวหรือแขนขาที่หยาบกว่า คุณต้องการครีมหรือโลชั่นที่ออกแบบมาสำหรับผิวกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าหนาว เมื่อผิวที่แขนขาหรือลำตัวจะแห้งกว่าปกติ โลชั่นทาผิวเดี๋ยวนี้ยังมีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย นอกจากจะมีสารให้ความชุ่มชื้น ยังอาจมีกรดอัลฟ่าไฮดร็อกซี่หรือส่วนผสมอื่นที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพื่อให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น และเช่นเดียวกับผิวหน้าที่ต้องการครีมกันแดดผิวกายก็ต้องการการปกป้องจากแสงแดดเช่นกัน ลองมองหาครีมทาผิวกายที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแดดสำหรับกลางวัน ที่ควรปกป้องได้ทั้งรังสียูวีเอและบีเช่นเดียวกับครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า

สู้เซลลูไลต์
เมื่อวัยเพิ่มขึ้น ผิวมีแนวโน้มที่จะสะสมเซลลูไลต์ขึ้นมาตามไปด้วย ราว 8 ใน 10 คนของผู้หญิงมักลงเอยด้วยการมีเซลลูไลด์ในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ส่วนใหญ่จะเป็นที่ต้นขา สะโพก และก้น เดี๋ยวนี้มีครีมจำนวนไม่น้อยที่ออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับเซลลูไลต์ แต่โดยทั่วไปมันจะลดสภาพผิวเปลือกส้มจากเซลลูไลต์ได้ชั่วคราวถ้าใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ มันทำงานโดยการทำให้ผิวชั้นบนบวมขึ้น จึงพรางรอยลูกคลื่นบนผิวได้ แต่ไม่มีการศึกษาใดที่ชี้ว่าครีมเหล่านี้ได้ผลในระยะยาว คุณอาจใช้การขัดผิวกายด้วยแปรงขัดผิวนุ่ม ๆ ขัดผิวในขณะที่ยังแห้งเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและทำให้ผิวที่มีเซลลูไลต์ดูดีขึ้นได้เช่นกัน หรืออาจใช้ร่วมกับครีมต้านเซลลูไลต์โดยใช้การนวดร่วมด้วยเสมอ
จัดการเซลลูไลต์จากภายใน
หยุดให้อาหารเซลลูไลต์ โรงงานผลิตเซลลูไลต์ในร่างกายคือเซลล์ไขมันมากมายที่เก็บกักแคลอรี ไขมันไม่ดี และสารพิษ ที่จะเปลี่ยนเป็นเซลลูไลต์ เมื่อเวลาผ่านไป การกำจัดหรือการหยุดบริโภคไขมันเลวและสารพิษ เช่น อาหารขยะ ไขมันอิ่มตัวอาหารสำเร็จรูป คุณจะสามารถหยุดการเติบโตของเซลลูไลต์ และไม่มีการสร้างเซลลูไลต์ใหม่ ๆ ขึ้นมา พร้อมกับการพยายามกำจัดของเก่าออกไป
กินอาหารต้านเซลลูไลต์ อย่างเช่น เนื้อสัตว์ไร้ไขมัน ปลา น้ำมันปลา และถั่วประเภทต่าง ๆ ผักหลากสี ผลไม้ อาหารไร้ไขมัน คุณจะเพิ่มการปกป้องตัวเองต่อเซลลูไลต์ เช่นเดียวกับที่จะช่วยกำจัดมันไปด้วย อาหารเหล่านี้ไม่เพียงแต่กำจัดเซลลูไลต์จากข้างใน แต่มันยังช่วยทำให้ผิวภายนอกโดยรวมดูดีขึ้นด้วย
เริ่มกิจกรรมต้านเซลลูไลต์ นั่นคือการออกกำลัง ยิ่งคุณออกกำลังมากเท่าไหร่ เซลลูไลต์ก็จะอยู่ยากมากขึ้นเท่านั้น เพราะเซลลูไลต์ชอบร่างกายที่ไม่เคลื่อนไหวมากกว่า ซึ่งจะมีการไหลเวียนโลหิตไม่ดี และมีมวลกล้ามเนื้อต่ำ การออกกำลังที่ทำให้การไหลเวียนดีและมีกล้ามเนื้อมากขึ้นจึงเป็นการบังคับให้เซลลูไลต์สลายตัวและหายไปในที่สุด ซึ่งการออกกำลังแบบแอโรบิกวันละ 20-30 นาทีก็เพียงพอแล้ว
Health !!!! 9
สารพัดประโยชน์จาก...พริก
พริก...ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ช่วยให้ระบบการหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น สารแคปไซซินที่อยู่ในพริกมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำมูกหรือลดปริมาณสารที่ขัดขวางระบบการหายใจ ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด ไซนัส หรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ ช่วยบรรเทาอาการไอ สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของตัวยาหลายๆ ชนิด นอกจากนั้นสารเบตาแคโรทีนในพริกช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ในบริเวณเนื้อเยื่อบุผนังช่องปาก จมูก ลำคอ และปอด
พริก...ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด หรือการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน การบริโภคพริกเป็นประจำจะช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการอุดตันของเส้นเลือด นับเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว เนื่องจากพริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความดัน เพราะว่าในพริกมีสารจำพวกเบตาแคโรทีนและวิตามินซี ซึ่งช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรงเพิ่มการยืดตัวของผนังหลอดเลือด ทำให้ปรับตัวเข้ากับแรงดันระดับต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
พริก...ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอล สารแคปไซซินช่วยป้องกันมิให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-Low density lipoprotein) ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-high density lipoprotein) มากขึ้น ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดต่ำลง เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค
พริก...ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด หรือการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน การบริโภคพริกเป็นประจำจะช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการอุดตันของเส้นเลือด นับเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว เนื่องจากพริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความดัน เพราะว่าในพริกมีสารจำพวกเบตาแคโรทีนและวิตามินซี ซึ่งช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรงเพิ่มการยืดตัวของผนังหลอดเลือด ทำให้ปรับตัวเข้ากับแรงดันระดับต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
พริก...ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอล สารแคปไซซินช่วยป้องกันมิให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-Low density lipoprotein) ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-high density lipoprotein) มากขึ้น ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดต่ำลง เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค

พริก...ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากพริกเป็นพืชผักที่มีวิตามินซีสูง การบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีมากๆ จะช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้ วิตามินซียับยั้งการสร้างไนโตรซามีนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร วิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อน รวมถึงเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กล้ามเนื้อและปอด คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สามารถหยุดการแพร่กระจายของเซลล์เนื้อร้ายได้
นอกจากนี้ วิตามินซียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) คือสามารถยุติหรือขัดขวางบทบาทของอนุมูลอิสระ (free radicals) ที่จะก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์จนเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด สารเบตาแคโรทีนในพริกช่วยลดอัตราการเสี่ยงของโรคมะเร็งในปอด และในช่องปาก คนที่รับประทานผักที่มีสารเบตาแคโรทีนน้อย จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งมากกว่าคนที่รับประทานผักที่มีเบตาแคโรทีนสูงถึง 7 เท่า
คุณสมบัติของสารเบตาแคโรทีนจะช่วยลดอัตราการกลายพันธุ์ของเซลล์และทำลายเซลล์มะเร็ง สำหรับพริกบางชนิดที่มีสีม่วงจะมีสารพวกแอนโทไซยานิน ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คือ สามารถทำลายอนุมูลอิสระได้เช่นกัน
พริก...ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น ลดอาการปวดฟัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น ในปัจจุบันมีการใช้สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้ง ใช้บรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากผดผื่นคันและอาการผื่นแดงบริเวณผิวหนัง รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น โรคเกาต์ หรือโรคข้อต่ออักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ผลการทดลองใหม่ๆยังบ่งชี้ว่าสารแคปไซซินช่วยลดอาการปวดศีรษะและไมเกรนลงได้
พริก...ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น ลดอาการปวดฟัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น ในปัจจุบันมีการใช้สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้ง ใช้บรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากผดผื่นคันและอาการผื่นแดงบริเวณผิวหนัง รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น โรคเกาต์ หรือโรคข้อต่ออักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ผลการทดลองใหม่ๆยังบ่งชี้ว่าสารแคปไซซินช่วยลดอาการปวดศีรษะและไมเกรนลงได้

พริก...ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและอารมณ์ดี เนื่องจากสารแคปไซซินมีส่วนในการส่งสัญญาณให้ต่อมใต้สมองสร้างสาร เอนดอร์ฟิน (endorphin มาจากคำว่า endogenous morphine) ขึ้น สารเอนดอร์ฟินเป็นเปปไทด์ขนาดเล็ก (โปรตีนสายสั้นๆ) มีคุณสมบัติคล้ายมอร์ฟีน คือ บรรเทาอาการเจ็บปวด ในขณะเดียวกันก็สร้างอารมณ์ให้ดีขึ้น ยิ่งรับประทานเข้าไปมากเท่าใด ร่างกายก็จะสร้างเอนดอร์ฟินขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น ปกติร่างกายของคนเราจะสร้างสารเอนดอร์ฟินขึ้นภายหลังการออกกำลังกาย ดังนั้นการออกกำลังกายแม้จะทำให้ร่างกายเมื่อยล้า แต่ผู้ออกกำลังกายจะรู้สึกสดชื่นแจ่มใส
ถ้าต้องการบรรเทาความเผ็ดของอาหารในปากควรดื่มแอลกอฮอล์ หรือรับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบมากกว่าการดื่มน้ำ เพราะการดื่มน้ำมีผลเพียงช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนได้เท่านั้น แต่ความเผ็ดก็ยังไม่ได้ลดลง เนื่องจากว่า ‘น้ำ' ละลายสารดังกล่าวได้ไม่ดี...นั่นเอง
Tips
เกณฑ์วัดระดับความเผ็ดร้อนสากลของพริกหรือผักผลไม้ที่มีสารแคปไซซินซึ่งให้ความเผ็ดร้อนนี้เรียกว่า สโกวิลล์ (Seoville) เป็นคำที่ตั้งขึ้นตามชื่อของผู้คิดค้นวิธีการวัดระดับนี้ ซึ่งก็คือ วิลเบอร์ ลินคอร์น สโกวิลล์ นักเคมีชาวอเมริกัน โดยเขาได้คิดค้นระดับวัดความเผ็ดนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1912 ขณะทำงานอยู่ที่บริษัทผลิตยา พาร์ก เดวิส เพื่อวัดความฉุนหรือความเผ็ดร้อนของพริกต่างชนิดกัน
สำหรับความเผ็ดที่วัดได้จากพริกขี้หนูสวนบ้านเรานั้นจะอยู่ที่ 50,000-100,000 สโกวิลล์ ในขณะที่สารแคปไซซินบริสุทธิ์นั้นมีค่าประมาณ 15,000,000-16,000,000 สโกวิลล์ ส่วนพริกที่ได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กว่าเผ็ดที่สุดในโลกก็คือ พริกฮาบาเนโร จากเรด ซาบีนา วัดค่าได้ถึง 350,000-577,000 สโกวิลล์...เลยทีเดียว
Health !!!! 8
น้ำมะนาวร้อนดื่มดีช่วยล้างพิษ
ปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะชอบดื่มน้ำมะนาวเย็น แต่รู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำมะนาวแบบร้อนก็มีประโยชน์มากเช่นกัน เพราะการผสมน้ำมะนาวกับน้ำร้อน นอกจากจะมีปริมาณแคลอรี่ต่ำแล้ว ยังช่วยล้างพิษได้ดี

โดยน้ำมะนาวร้อนจะช่วยบำรุงตับให้ผลิตน้ำดีออกมาช่วยในการย่อยอาหารให้เร็วขึ้น และยังช่วยขับของเสียที่คั่งอยู่ในท้อง ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการบวมท้องลดลงอีกด้วย เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรดื่มก่อนมื้ออาหาร หรือดื่มทันทีหลังจากตื่นนอนตอนเช้า เพื่อทำให้ร่างกายสดชื่นไปในตัว
Health !!!! 7
โยคะเพิ่มความสูง
เชื่อ หรือไม่คะว่าการทำโยคะทุกๆ วันสามารถทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้ และไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพที่ดีเท่านั้นที่คุณจะได้รับจากการทำโยคะ แต่หุ่นสวยที่มีความพอดีไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วนก็จะเป็นอีกสิ่งที่คุณจะได้ รับจากการเล่นโยคะเช่นกัน
มากไปกว่านั้นคุณสาวๆ ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องความสูง ควรฟังทางนี้ ....
การทำโยคะสามารถช่วยให้คุณมีความสูงที่เพิ่มมากขึ้นได้เช่นกัน
การทำโยคะสามารถช่วยให้คุณมีความสูงที่เพิ่มมากขึ้นได้เช่นกัน

อาหาร อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คุณมีความสูงที่เพิ่มขึ้นได้แต่การออกกำลังกายใน ท่วงท่าที่ถูกต้องก็สามารถช่วยได้คุณมีความสูงได้มากขึ้นเช่นกัน อาทิตย์นี้เราขอแนะนำท่าโยคะ 3 ท่าง่ายๆ ที่สามารถเพิ่มความสูงของคุณได้โดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือเสียเงินแพงๆ สามารถทำได้ที่บ้าน นำไปบอกต่อหรือสอนลูกสาววัยกำลังโตก็ได้เช่นกัน ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย

1. ท่าสุขอาสนะ
• เริ่มจากการนั่งขัดสมาธิกับพื้น หงายฝ่ามือทั้งสองข้างบนเข่า กำหนดลมหายใจเข้า-ออกให้ลึกๆ มีความสัมพันธ์กัน ทำแบบนี้อย่างน้อย 5 ครั้ง
• ยกแขนขึ้นให้เหนือศีรษะพร้อมๆ กับสูดลมหายใจเข้า-ออก แล้วค่อยๆ วางแขนลงช้าๆ ในขณะที่ปลอดลมหายใจออกช้าๆ
• ทำซ้ำท่าเดิมแบบนี้ 5-7 ครั้งค่ะ
2. ท่าสามเหลี่ยม
• ยืนแยกขาห่างจากกันประมาณ 90-120 ซม. ให้เท้าทั้งสองข้างขนานกัน
• หันเท้าซ้ายออกจากลำตัว 90 องศา และหันเท้าขวาเข้าหาลำตัว 45 องศาค่ะ
• หายใจเข้าพร้อมกับยกแขนขึ้นจากข้างลำตัวให้ขนานกับพื้น
• หายใจออกพร้อมแนบศรีษะให้ติดกับต้นแขนซ้าย ยืดขาซ้ายให้ตรง หายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆ เอนตัวไปทางด้านซ้ายจนสุด
• ยืดแขนซ้ายมาจับข้อเท้าซ้ายและยกแขนขวาขึ้นตั้งตรง แหงนศีรษะมองมือขวาและสูดลมหายใจเข้า-ออก ลึกๆ หลายๆ ครั้ง และทำท่าเดิมทางด้านขวาเช่นกันค่ะ
3. ท่าแมว
• ทำท่าคุกเข่าโดยให้หัวเข่าทั้งสองข้างอยู่ห่างกัน วางมือสองข้างให้ตรงกับหัวไหล่
• สูดลมหายใจเข้าพร้อมยกสะโพกขึ้น เอนตัวและแหงนหน้าขึ้นให้สุด
• ค่อยๆ ยืดตัวตรง และโก่งตัวขึ้น พร้อมกับก้มศีรษะมองลง
• กลับสู่ท่าปกติ และทำแบบนี้ซ้ำท่าเดิมหลายๆ ครั้งค่ะ
Health !!!! 6
ออกกำลังกายยังไงไม่ให้ผิวและผมเสีย
การออกกำลังกายแม้จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่ช่วยให้หุ่นดี แต่บางครั้งก็อาจสร้างปัญหากับผิวและเส้นผมได้ ฉะนั้น ใช้เทคนิคของเรานี้ในการไปออกกำลังกายครั้งต่อไป

- เกล้ามวย รวบผมขึ้นไปสูงๆ ถักเปีย แล้วขดเปียให้เป็นมวยอยู่บนกระหม่อม หลังออกกำลังกายเสร็จแล้วก็ใช้ได้เป่า แล้วค่อยปล่อยผมลงมา
- เก็บผมม้า ถ้าคุณมีเหงื่อออกมากมายในระหว่างออกกำลังกาย ก็เสยผมม้าขึ้นไปแล้วติดกิ๊บเอาไว้ หรือจะให้ดีก็ใช้ที่คาดผมไปซะเลย วิธีนี้จะช่วยป้องกันสิวที่เกิดจากเหงื่อ
- หลีกเลี่ยงเครื่องสำอาง เครื่องสำอางส่วนใหญ่มักจะขวางกั้นไม่ให้ผิวของคุณได้หายใจในระหว่างออกกำลังกาย ส่งผลให้รู้ขุมขนเกิดการอุดตัน ถ้าจำเป็นต้องแต่งหน้าจริงๆ ก็แต่งบางๆ เข้าไว้ โดยควรเลี่ยงการใช้รองพื้นเป็นดีที่สุด
Health !!!! 5
ผอมไว้ได้ด้วย 10 เทคนิค (ไม่) ลับ
ผอมไว้ได้ด้วย 10 เทคนิค (ไม่) ลับ

ผอมไว้ได้ด้วย 10 เทคนิค (ไม่) ลับ (Lisa)
ข้าวปลาอาหารที่อุดมสมบูรณ์ในบ้านเราอาจทำให้เราเผลอกินมากไป แต่สำหรับคนที่กำลังไดเอ็ต คุณอาจตามใจตัวเองได้บ้างด้วยเคล็ดลับเล็ก ๆ แต่มีทีเด็ดเหล่านี้ที่จะช่วยให้คุณฟิตหุ่นให้เข้าที่ได้เร็วขึ้น

ในระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟหรือรถประจำทาง ภายใน 90 นาที ร่างกายคุณจะเกิดพลังงานและเผาผลาญได้เร็วขึ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์

มีผลการศึกษาออกมาแล้วว่า การกระโดดเชือกนาน 5 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพียงเท่านี้ก็สามารถกำจัดไขมันไปได้กว่าหนึ่งกิโลกรัม

กาแฟรสขมเข้มข้น ดื่มเพียงแก้วเล็ก ๆ โดยไม่ใส่น้ำตาลหลังกินอาหารเสร็จ จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นตัวกระตุ้นระบบเผาผลาญอย่างดีเลย


มีผลการวิจัยพบว่า กินเกรปฟรุตวันละครึ่งลูก ช่วยลดน้ำตาลในร่างกายลงได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

องุ่นแดงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสุด ๆ สำหรับทุกคนที่ชอบมันฝรั่งทอดและลูกกวาด เปลี่ยนมากินองุ่นแทนดีกว่า เพราะน้ำตาลในองุ่นนั้นช่วยลดความหิวได้

ไม่น่าเชื่อว่าในเวลาที่คุณหิว แค่กดนิ้วกลางลงกับนิ้วหัวแม่มือแรง ๆ อย่างสั้น ๆ 3 ครั้ง มีส่วนช่วยดับความหิวที่เกิดขึ้นได้


รู้ไหมว่าเมื่อคนเราฉีกยิ้มกว้าง ๆ ร่างกายจะผลิตเจ้าฮอร์โมนที่ชื่อเซโรโทนิน และโดพามีน ที่ทำให้เรามีความสุข และสร้างกลไกผลักดันให้ร่างกายลดการก่อตัวของไขมัน แบบนี้แล้วเมื่อยามที่คุณแฮปปี้ ให้ขยับมุมปากยิ้มกว้าง ๆ อวดฟันสวยกันเลย

เป็นทริกที่ได้ยินกันบ่อย ๆ เลือกหมากฝรั่งแบบโลว์ชูการ์ก็ได้ มันช่วยเพิ่มการเปลี่ยนแปลงสารในร่างกายได้ 19 เปอร์เซ็นต์ และนั่นหมายความว่า มันอาจช่วยให้น้ำหนักลดลงไปได้หนึ่งปอนด์ในช่วงเวลาเพียงเดือนเดียว

เป็นของขบเคี้ยวที่อุดมด้วยธาตุเหล็กที่ไม่เพียงช่วยแก้หิวได้ดี แต่ยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกายให้เพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 200 เปอร์เซ็นต์เชียวนะ

โปรตีนชนิดชงเองช่วยให้คุณอิ่มท้อง เติมเต็มมื้ออาหารได้อย่างสมบูรณ์ และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญให้น้ำหนักลดลงได้ แต่อย่าชงดื่มจนเกินพอดีล่ะ
Extra Tip from Top Model
นางแบบสาวคนดัง ชาวเยอรมัน ไฮดี้ คลุม เผยวิธีง่าย ๆ ที่จะพิชิตไขมันเพื่อให้รูปร่างยังคงสวยเฟิร์มแม้จะเป็นคุณแม่แล้วก็ตาม ไฮดี้ แนะนำว่า ควรแยกเวลาอาหารออกจากเวลาดูทีวี เพราะมีผลการวิจัยออกมาว่า คนส่วนมากได้รับแคลอรีสูงอย่างต่อเนื่องจากการนั่งกินอาหารหน้าจอทีวีทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งทอด หรือช็อกโกแลตที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อแบ่งเวลาหน้าทีวีกับเวลากินได้ รูปร่างในฝันก็อยู่ไมไกลเกินเอื้อม
Health !!!! 4
ฟันคุด จำเป็นต้องผ่าเสมอไปไหมคะ
ฟันคุด จำเป็นต้องผ่าเสมอไปไหมคะ

ฟันคุด จำเป็นต้องผ่าเสมอไปไหมคะ (Lisa)
หลายคนพอได้ยินคำว่า "ผ่าฟันคุด" ถึงกับตกอกตกใจเลยทีเดียว พลางสงสัยว่า จำเป็นหรือไม่ที่ต้องถอนฟันคุดให้เจ็บตัว วันนี้ นพ.รัชภูมิ เผ่าเสถียรพันธ จะมาไขข้อข้องใจให้ฟังกันค่ะ
สำหรับฟันคุดคือฟันที่ไม่สามารถขึ้นได้ในช่องปาก โดยจะเกิดซ้อนขึ้นมากับฟันชุดเดิม พบมากในฟันกรามซี่ในสุด หากเกิดขึ้นและปล่อยไว้จะมีอาการอักเสบ ติดเชื้อ และเกิดรากฟันระคายเคืองจนอักเสบได้ ไม่มีเหตุผลสมควรใด ๆ ให้เก็บไว้ครับ ต้องเอาออก
ฟันคุดก็เหมือนรักคุดนะ จะมีดีเหรอครับ ถ้าผ่าออกแล้วก็จบ และไม่มีอาการอีก หากปล่อยเอาไว้หลังจากรักษาด้วยยา ซึ่งคนไข้หลายคนเป็น พออาการดีขึ้นก็ไม่ผ่า แต่อีกไม่นานก็กลับมาเป็นอีก ดังนั้นถ้าฟันคุดก็ต้องผ่าออกจะได้ไม่เป็นอีกครั้งครับ
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Health !!! 3
็ำ
กินแอปเปิ้ลสีอะไร..ดี (ไทยโพสต์)
บางคนชอบทานแอปเปิ้ลสีแดง บางคนชอบทานสีเขียว แล้วเคยสงสัยไหมว่า แอปเปิ้ลสีไหนให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่ากัน ถ้างั้นลองมาดูกันเลย
แอปเปิ้ลแดง
มีสารแอนติออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีสารอีลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิว
แอปเปิ้ลสีชมพู
มีสารฟิโนลิกมากที่สุด ซึ่งสารนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

แอปเปิ้ลสีเหลือง
มีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก
แอปเปิ้ลสีเขียว
รสมักจะเปรี้ยวให้วิตามินซี และช่วยลดน้ำหนัก อีกทั้งมีอีลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี
ชอบแอปเปิ้ลสีไหนก็ทานกันตามสบายเลยนะคะ แต่ถ้าจะให้ได้ประโยชน์ครบถ้วน ทานแอปเปิ้ลให้ครบทุกสีก็ดีไม่น้อยนะ

กินแอปเปิ้ลสีอะไร..ดี (ไทยโพสต์)
บางคนชอบทานแอปเปิ้ลสีแดง บางคนชอบทานสีเขียว แล้วเคยสงสัยไหมว่า แอปเปิ้ลสีไหนให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่ากัน ถ้างั้นลองมาดูกันเลย

มีสารแอนติออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีสารอีลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิว

มีสารฟิโนลิกมากที่สุด ซึ่งสารนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย


มีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก

รสมักจะเปรี้ยวให้วิตามินซี และช่วยลดน้ำหนัก อีกทั้งมีอีลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี
ชอบแอปเปิ้ลสีไหนก็ทานกันตามสบายเลยนะคะ แต่ถ้าจะให้ได้ประโยชน์ครบถ้วน ทานแอปเปิ้ลให้ครบทุกสีก็ดีไม่น้อยนะ
วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Health !!!! 2
เคล็ดลับการวินิจฉัย เส้นโลหิตในสมองบกพร่อง
เคล็ดลับการวินิจฉัย เส้นโลหิตในสมองบกพร่อง

เคล็ดลับการวินิจฉัย เส้นโลหิตในสมองบกพร่อง (Lisa)
หากมีคนใกล้ชิดหกล้มก็อย่าประมาท เพราะอาจเนื่องมาจากเส้นโลหิตในสมองบกพร่องได้ เพราะบางคนเส้นโลหิตในสมองแตก อาจไม่ถึงตาย แต่ก็อาจเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้
แพทย์ทางประสาทวิทยาแนะนำว่า หากผู้ป่วยถึงมือแพทย์ภายใน 3 ชั่วโมง ก็จะมีโอกาสรอดชีวิตได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนใกล้ชิดว่า จะรู้ทันอาการของเส้นโลหิตในสมองบกพร่องหรือเปล่า เพราะหากรู้ไม่เท่าทันและไม่ได้พาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันเวลา สมองผู้ป่วยก็จะถูกทำลายอย่างร้ายแรง
ดังนั้น วิธีทดสอบคนข้างเคียง มี 3 วิธีด้วยกัน คือ 1.ให้ผู้ป่วยยิ้ม 2.ให้ผู้ป่วยพูดประโยคที่มีสาระสมบูรณ์ เช่น วันนี้อากาศสดใสดีจัง 3 .ให้ผู้ป่วยชูแขนสองข้าง และอาการอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ ให้ผู้ป่วยแลบลิ้นออก ถ้าลิ้นม้วนหรือลิ้นเบี้ยวไปข้างหนึ่ง นั่นคือส่ออาการอันตรายล่ะ
ดังนั้น ถ้าผู้ป่วยมีอาการปกติข้อใดข้อหนึ่ง ให้รีบติดต่อแพทย์หรือส่งโรงพยาบาลด่วน
Health !!!!
6 เคล็ดลับที่ทำให้คุณตื่นมาพร้อมความสดชื่น
6 เคล็ดลับที่ทำให้คุณตื่นมาพร้อมความสดชื่น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
แค่ลืมตาตื่นก็ยากอยู่แล้ว แถมยังต้องมาทนกับเสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้าอีก เมื่อคิดถึงเรื่องเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะแล้ว ไม่อยากจะพลิกตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำเลยจริง ๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็ต้องมาแต่งหน้าแต่งตัวอีก จะส่งกระจกทีไรก็เห็นขอบตาคล้ำ ๆ ทุกที เห็นแล้วปวดใจจริง ๆ ซึ่งกว่าจะได้ออกจากบ้านก็เหลือเวลาไม่เท่าไหร่แล้ว ไปจะทำงานก็ต้องปวดหัวกับเรื่องรถติดอีก แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ชีวิตของคนธรรมดานี่ ไม่ธรรมดาจริง ๆ เลยนะ
วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยนำเรื่องราวดี ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณเตรียมตัวตั้งรับกับเช้าวันใหม่ที่แสนจะยุ่งยากมาบอกกัน ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ


สิ่งที่ทำให้คุณเสียเวลามากที่สุด และต้องมาตอกบัตรที่บริษัทแบบฉิวเฉียด กึ่ง ๆ สาย ทุกครั้ง นั่นก็เป็นเพราะคุณมัวแต่เสียเวลาไปกับการค้นตู้เสื้อผ้านะสิ และคิดว่าวันนี้จะใส่ชุดสีอะไรดีนะ (ยังไม่รวมเวลาแต่งหน้านะ) กว่าจะตัดสินใจได้ก็ปาเข้าไปเป็นชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่อยากเป็นแบบนี้อีก ก็ลองเปลี่ยนวิธีใหม่นะคะ โดยคิดไว้ซะตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยว่าพรุ่งนี้คุณจะใส่อะไรไปทำงาน ทั้งเสื้อผ้า ทั้งกระโปรง ลายไหนสีไหนก็คิดให้เสร็จ แล้วเอามาแขวนไว้หน้าตู้ ครั้งต่อไปก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลายืนปวดหัวเลือกเสื้อผ้าทุกเช้าอีก

ทั้งกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ สมุดจดตารางนัดหมาย ฯลฯ สิ่งสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ที่คุณจะต้องใช้ หยิบใส่กระเป๋าให้พร้อม และถ้าในคืนนั้นคุณต้องชาร์จแบตมือถือทิ้งไว้ทั้งคืนละก็ คุณก็ควรแปะโน้ตเตือนความจำไว้ที่กระเป๋าด้วยนะคะ และก่อนจะสะพายกระเป๋าออกจากบ้านก็ลองเช็คของในกระเป๋าดูอีกครั้งว่า คุณมีของครบแล้วหรือยัง ถ้าเช็คดูจนมั่นใจแล้วก็ออกไปทำงานได้เลย อ้อ! อย่าลืมกุญแจบ้าน หรือกุญแจรถนะคะ จะหาว่าเราไม่เตือน

เราไม่ได้ให้คุณทำอาหาร แล้วกินเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืนนะคะ แต่เราให้คุณเตรียมอาหารไว้สำหรับวันถัดไปต่างหาก คุณอาจจะแพ็คใส่กล่องข้าว หรือถุงแล้วนำไปแช่ตู้เย็น วันรุ่งขึ้นก็แค่นำอาหารไปเวฟ หรืออุ่นอาหารให้สุก แค่นี้ก็ประหยัดเวลาทำอาหารไปได้อีกเยอะเลย และที่สำคัญคุณก็ไม่ต้องตื่นเช้ามาทำอาหารในสภาพหลับ ๆ ตื่น ๆ อีกต่อไป


ถ้าวันนี้คุณติดประชุม หรือมีนัดทานข้าวกับลูกค้า หรือจะออกไปท่องราตรีกับเพื่อน ๆ ก็ควรติดข้อความบอกที่บ้านของคุณไว้หน่อยก็ดีนะคะ เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องมานั่งรอคุณกลับบ้านดึก ๆ อย่างเช่น คืนนี้กลับดึกนะ มีนัดกับลูกค้า หรือวันนี้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ต้องทานข้าว หรือสารพัดข้อความที่คุณอยากจะบอกกับคนในบ้าน ก็ติดเอาไว้ในที่ที่พวกเขาเห็นได้ง่าย ๆ อย่างเช่น ตู้เย็น หรือบนกระดาน เพียงแค่นี้พวกเขาก็จะรู้แล้วว่า วันนี้คุณจะไปทำอะไรที่ไหน ถ้าหากคุณกลับผิดเวลา พวกเขาก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงยังไงล่ะคะ

บางคนอาจจะละเลยมื้อสำคัญ อย่างเช่นอาหารมื้อเช้าไป เพราะต้องรีบออกไปทำงาน เลยไม่อยากเสียเวลากินข้าวที่บ้าน ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนวิธีกินอาหารดีไหมคะ แค่เปลี่ยนไปทานอาหารกินง่ายให้พลังงานสูงอย่างเช่น กล้วย ขนมปังโฮลวีต ซีเรียล กันดีกว่าไหม ทั้งประหยัดเวลา ทั้งได้คุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งคุณจะได้ไม่พลาดมื้อสำคัญของวันด้วย

ถ้าไม่อยากจะเจออาการสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจละก็ คุณควรวางแผนไว้เลยว่า ในหนึ่งเดือนคุณมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และในแต่ละวันคุณจะใช้จ่ายเงินวันละเท่าไหร่ เมื่อถึงตอนเช้า คุณก็แค่ก็เตรียมเงินให้เท่ากับจำนวนที่คุณตั้งไว้ และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใช้เงินเกินงบ แค่นี้ก็คุณก็มีเงินเก็บได้ไม่ยาก และนี่ยังเป็นวิธีที่จะช่วยคุณควบคุมการใช้เงินได้ดีอีกด้วย ส่วนเงินที่เหลือในแต่ละวัน คุณจะเอาไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน ๆ หรือจะเก็บเข้าธนาคารสะสมดอกเบี้ยเล่น ๆ ก็ได้ (แต่แนะนำว่าวิธีหลังดีกว่านะคะ)
คราวนี้คุณก็ทราบเคล็ดลับดี ๆ กันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วยนะคะ เพราะถึงแม้ชีวิตของคุณจะยุ่งยาก หรือวุ่นวายสักแค่ไหน แต่ถ้าคุณมีวิธีบริหารเวลา และรู้จักวิธีตั้งรับดี ๆ ละก็ ต่อให้เป็นเรื่องยากแค่ไหน คุณก็สามารถเปลี่ยนเรื่องยาก ๆ เหล่านั้น ให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้ภายในพริบตาเลยล่ะค่ะ คราวนี้คุณก็สามารถตื่นมาพร้อมรับแสงวันใหม่ได้โดยไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องจุกจิกกวนใจอีกแล้วล่ะ
วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนด้วยภาษาเชิงกระบวนความมีลักษณะการทำงานตามลำดับ
ของคำสั่ง จากคำสั่งแรกจนถึงคำสั่งสุดท้าย และบางคำสั่งอาจจะถูกทำซ้ำ หรือบางคำสั่งอาจจะไม่ถูกกระทำเลย
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในโปรแกรม ภาษาในกลุ่มนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทำความเข้าใจกับการเขียนโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ เนื่องจากช่วยให้ผู้เรียนรู้จักการคิดอย่างเป็นระบบ อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการเขียนโปรแกรม
ภาษาอื่น นอกจากนี้ในภาษาโปรแกรมประเภทอื่นก็จะยังมีรูปแบบการทำงานเชิงกระบวนความแฝง
อยู่ภายในด้วยเสมอ การใช้งานภาษาในกลุ่มนี้ เช่น งานคำนวนทางวิทยาศาสตร์อาจเลือกใช้ภาษาฟอร์แทรน
(FORTRAN) งานประมวลผลข้อมุลทางธุรกิจการเงินหรือธนาคารอาจเลือกใช้ภาษาโคบอล (COBOL)
หรือภาษาอาร์พีจี (RPG) การเขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์มักเลือกใช้ภาษาซี
เนื่องจากภาษาเครื่องที่ได้จะทำงานได้รวดเร็ว หรือการเรียนการสอนการโปรแกรมเชิงกระบวนความอาจ
เลือกใช้ภาษาปาสคาล (Pascal) หรือภาษาซี เป็นต้น


ของคำสั่ง จากคำสั่งแรกจนถึงคำสั่งสุดท้าย และบางคำสั่งอาจจะถูกทำซ้ำ หรือบางคำสั่งอาจจะไม่ถูกกระทำเลย
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในโปรแกรม ภาษาในกลุ่มนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทำความเข้าใจกับการเขียนโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ เนื่องจากช่วยให้ผู้เรียนรู้จักการคิดอย่างเป็นระบบ อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการเขียนโปรแกรม
ภาษาอื่น นอกจากนี้ในภาษาโปรแกรมประเภทอื่นก็จะยังมีรูปแบบการทำงานเชิงกระบวนความแฝง
อยู่ภายในด้วยเสมอ การใช้งานภาษาในกลุ่มนี้ เช่น งานคำนวนทางวิทยาศาสตร์อาจเลือกใช้ภาษาฟอร์แทรน
(FORTRAN) งานประมวลผลข้อมุลทางธุรกิจการเงินหรือธนาคารอาจเลือกใช้ภาษาโคบอล (COBOL)
หรือภาษาอาร์พีจี (RPG) การเขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์มักเลือกใช้ภาษาซี
เนื่องจากภาษาเครื่องที่ได้จะทำงานได้รวดเร็ว หรือการเรียนการสอนการโปรแกรมเชิงกระบวนความอาจ
เลือกใช้ภาษาปาสคาล (Pascal) หรือภาษาซี เป็นต้น


ภาษาเชิงวัตถุจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้เขียนโปรแกรมในการพัฒนาโปรแกรมที่ใหญ่และซับซ้อน
ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถใช้เขียนโปรแกรมในลักษณะเดียวกับภาษาเชิงกระบวนความได้เช่นกัน
ภาษาในกลุมนี้ เช่น ภาษาจาวา (Java) ภาษาซีชาร์ป (C#) และภาษาซีพลัสพลัส (C++)
รูปที่ 7.5 แสดงตัวอย่างโปรแกรมภาษาซีพลัสพลัสที่ให้ผู้เล่นทายตัวเลขที่โปรแกรมสุ่มขึ้นมาหนึ่งตัว
ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถใช้เขียนโปรแกรมในลักษณะเดียวกับภาษาเชิงกระบวนความได้เช่นกัน
ภาษาในกลุมนี้ เช่น ภาษาจาวา (Java) ภาษาซีชาร์ป (C#) และภาษาซีพลัสพลัส (C++)
รูปที่ 7.5 แสดงตัวอย่างโปรแกรมภาษาซีพลัสพลัสที่ให้ผู้เล่นทายตัวเลขที่โปรแกรมสุ่มขึ้นมาหนึ่งตัว


1) โฟร์ทจีแอล (fourth-generation languages: 4GLs) เป็นกลุ่มของภาษาที่แตกต่างจากภาษา
เชิงกระบวนความ ที่เน้นให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลได้โดยง่าย ภาษาจะมีความคล้ายคลึง
กับภาษาอังกฤษที่ใช้กันอยู่ ตัวอย่างของภาษา 4GL เช่น ภาษาเอสคิวแอล (SQL)
2) เอชทีเอ็มแอล (Hypertext Markup Language: HTML ) เป็นภาษาที่ใช้จัดรูปแบบการแสดงผล
ของข้อความและรูปภาพ รวมถึงสื่อประสมบนหน้าเว็บ ดังนั้นเอชทีเอ็มแอลจึงไม่ได้ถูกจัดเป็นภาษา
ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมอย่างแท้จริง แต่เป็นการกำหนดวิธีการในการแสดงผล เอชทีเอ็มแอลจะใช้
แท็ก (tags) เป็นตัวกำหนดว่าส่วนใดในเอกสารจะให้แสดงผลอย่างไร
รูปที่ 7.7 (ก) แสดงตัวอย่างของภาษาเอชทีเอ็มแอลที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจในรูปที่ 7.7 (ข
เชิงกระบวนความ ที่เน้นให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลได้โดยง่าย ภาษาจะมีความคล้ายคลึง
กับภาษาอังกฤษที่ใช้กันอยู่ ตัวอย่างของภาษา 4GL เช่น ภาษาเอสคิวแอล (SQL)
2) เอชทีเอ็มแอล (Hypertext Markup Language: HTML ) เป็นภาษาที่ใช้จัดรูปแบบการแสดงผล
ของข้อความและรูปภาพ รวมถึงสื่อประสมบนหน้าเว็บ ดังนั้นเอชทีเอ็มแอลจึงไม่ได้ถูกจัดเป็นภาษา
ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมอย่างแท้จริง แต่เป็นการกำหนดวิธีการในการแสดงผล เอชทีเอ็มแอลจะใช้
แท็ก (tags) เป็นตัวกำหนดว่าส่วนใดในเอกสารจะให้แสดงผลอย่างไร
รูปที่ 7.7 (ก) แสดงตัวอย่างของภาษาเอชทีเอ็มแอลที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจในรูปที่ 7.7 (ข

History
น.ส.ณัฐชยา บุญภา บิวตี้
Nutchaya bunpa bewty
ที่อยู่ 1/6060 ม.2 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง 52000
วันเดือนปีเกิด 16 มิถุนายน พ.ศ.2539
E-mail : bew_nalux@hotmail.com
tel.085-029-1896
สีที่ชอบ : สีชมพู
ตัวการ์ตูนที่ชอบ : hello kitty
กีฬาที่ชอบ : วอลเล่ย์บอล :)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)